การที่มีเกมให้เลือกเล่นบนโทรศัพท์เป็นจำนวนมาก จะส่งผลต่อการอยู่รอดของเครื่องเล่นเกมแบบพกพาไหมครับ

เครื่องเล่นเกมแบบพกพา มีมานานมากแล้วนะครับ ตั้งแต่สมัยเกือบ 30 ปีก่อนก็มีแล้วครับ
สมัยนั้นเครื่องจะเป็นชนิดที่เด็กๆเรียกกันว่า เกมกด หรือเกมกดปุ่ม หรืออาจจะเรียกอีกอย่างว่าเกมบอย ซึ่งต่อมาก็ได้มีการพัฒนาต่อยอดมาเป็นเครื่องเล่น GBA
ถัดจากนั้นมาไม่นาน ก็มีเครื่องเล่นเกมชนิดที่เรียกกันว่า เกมคอนโซล ทะยอยตามออกมา
ต่อมาจึงเริ่มมีเครื่องเล่นเกมแบบพกพาชนิดอื่นๆตามมาอีก เช่น Wii U
แต่เพราะกระแสโลกาภิวัฒน์ที่มาแรงมากในช่วง 10 กว่าปีมานี้ ส่งผลให้ทุกวันนี้ ผู้คนทั่วโลก((โดยเฉพาะที่อยู่ตามเมืองใหญ่) ล้วนมีโทรศัพทมือถือเปนอปกรณ์พกพาคู่กายกันทั้งนั้นครับ
แม้แต่เด็กประถมก็ยังมีเลย
ที่สำคัญประการหนึ่งคือ เจ้าสมาร์ทโฟนหรือโทรศัพท์มือถือที่บางคนเรียกกันนี้ มันเป็นได้มากกว่าแค่โทรศัพท์ที่เอาไว้ใช้สื่อสารกัน
มันใช้เล่นเกมได้ด้วย
แล้วเกมในโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟนเดี๋ยวนี้น่ะ มันไม่ธรรมดาแล้วครับ มันไม่ได้มีแค่เกมเล็กๆอย่าง Tetris แบบสมัยโน้นแล้วนะ
เกมที่ภาพสวยๆแทบไม่ต่างจากเกมคอมพิวเตอร์ก็มีให้เลือกเล่นเยอะแล้ว
และย่งเทคโนโลยียิ่งก้าวหน้ารวดเร็วแบบสมัยนี้ ประสิทธิภาพของเครื่องสมาร์ทโฟนก็ยิ่งพัฒนา จนเข้าใกล้ความเป็นเครื่องคอมพวเตอร์ส่วนบคคลขนาดจิ๋วเข้าไปทกที ยิ่งชวนให้คดครับว่า เกมบนโทรศัพท์มือถือก็ย่อมจะต้องมีพัฒนาการทั้งในแง่ความสวยงามของกราฟฟิกและเกมเลย์ตามไปด้วย
แล้วทีนี้ พวกเครื่องเล่นเกมแบบพกพา จะอยู่รอดหรือ จะแข่งขันกับเกมบนสมาร์ทโฟนได้อีกหรือครับ?
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
เอาจริงๆ มันต่างกันมากนะ เกมมือถือ กับ เกมบนเครื่องเล่น (ถ้าไม่นับเกมที่พอร์ทมาลงมือถือภายหลัง)

เกมมือถือ คือ เกมที่เน้นเข้าถึงง่าย เร็ว เน้นโหลดฟรี แต่มี IAP หรือหลายๆ เกมก็มีระบบพลังงาน โมเดลหอกหักนี่ทำเงินเข้าผู้พัฒนาเยอะมาก เพราะได้เงินเรื่อยๆ กว่าเกมจะเลิกฮิตก็คืนทุนไปหลายเท่า (ถ้าเกมดีจริง) ผมมองว่ามันคือเกม เอ่อ... มันคือโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ทำออกมาล่อลวงให้ผู้ใช้เพลิดเพลินและเสียเงินให้กับมันไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด และแทบจะไม่มีจิตวิญญาณของความเป็นเกมที่แท้จริง คุณค่าการเล่นซ้ำ (ที่ไม่ใช่ไม่ผ่านแล้ววนเล่นอยู่ที่เดิม) เกมส่วนมากไม่มีวันจบ เพราะเกมจะหลอกล่อให้คุณเล่นไปเรื่อยๆ พอสนุกแล้ว ติดเกมแล้ว แต่ไม่ผ่าน ก็เติมสิครับ เติมเงินไปใช่จะได้ของที่ต้องการ ได้แค่ตั๋วกาชาหรือเติมพลังงานเพื่อให้เล่นต่อเนื่อง เสียเล็กเสียน้อยไปตลอด รู้ตัวอีกทีเป็นพันเป็นหมื่นบาทแล้ว หรือถ้าเกมแบบ Multiplayer Only โหลดฟรีเข้าว่าแต่พลาดท่าตรงสกินทั้งนั้น แถมถ้าวันไหนเกมปิดตัว ก็ลาก่อน สรุปก็คือ มันคือสิ่งที่ทำให้เราติดกับการละเล่น ไม่ว่าด้วยมุมใดๆ จากนั้นก็ล่อลวงให้เราเสียเงินให้มันนั้นแหละ เบื่อก็เลิก ที่เติมไปทั้งหมดก็สาปสูญไป

เกมบนเครื่องเล่น มันคือเกมจริงๆ เกมที่ออกแบบมาให้ผู้เล่นสนุกกับมัน เพราะส่วนใหญ่มีเนื้อเรื่อง มีฉากจบ มีวันจบ และซื้อทีเดียว เสียเงินทีเดียวเล่นได้ตลอดชีพ แม้วันหนึ่งคนทั้งโลกจะเบื่อเกมนี้แล้ว แต่ถ้าเครื่องเกมคุณยังไม่พังคุณก็เอามันมาเล่นได้อีกตลอดเวลา ต่อให้เกมนี้คุณเล่นจบไปแล้ว ผ่านไป 10 ปี คิดถึงมัน อยากกลับมาเล่นใหม่ เริ่มต้นใหม่ ก็ยังสนุก เพราะมันคือเกมจริงๆ ไงล่ะ

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ ว่าความเข้าถึงมันต่างกันจริงๆ

เกมมือถือ อยู่ในอุปกรณ์ที่แทบทุกคนมี สมัยนี้ภาพสวยๆ มากมาย ถึงจะมีข้อจำกัดที่ต้องทำทุกอย่างผ่านทัชสกรีน และเกมบางประเภทก็ควบคุมแบบนั้นไม่ถนัด เช่นเกม Fighting แต่ก็มีจอยเสริม หรือจอยบลูทูธออกมาปิดจุดอ่อนตรงนี้ได้ ทำให้เกมมือถือมันเข้าถึงทุกคนมากกว่า ทั้งโหลดฟรีทำให้ง่ายต่อการลิ้มลอง และพอติดกับแล้ว ก็พร้อมเสียเงินทั้งนั้น

ขณะที่เกมบนเครื่องเกมพกพา มันเป็นเกมที่ทำมาเฉพาะ และต้องซื้อเครื่องเฉพาะ ราคาก็พอๆ กับมือถืออีกเครื่องแต่เล่นเกมได้อย่างเดียว ณ วันนี้ที่รอดชีวิตอยู่ได้ก็มี Nintendo Switch แต่การตลาดและคอนเซ็ปต์เขาแข็งแรงมาก ให้ประสบการณ์ที่มือถือให้ไม่ได้จริงๆ ไหนจะเรื่องเกม EX ที่หาเล่นที่อื่นไม่ได้ (ไม่นับ Emulator) กระแสก็ไม่ตกเลย แม้จะไม่แมสเท่าเกมมือถือ แต่ถือว่าเอาตัวรอดได้ดีมากๆ ถึงอนาคตจะพลาดท่า แต่ด้วยความที่มีเกม EX อยู่กับตัว ก็ไม่น่าเจ๊งง่ายๆ แม้วันนี้จะโดนติเรื่องกราฟิกห่วย เฟรมเรทตก แต่ก็เฉพาะเกมที่พอร์ทมาลงเท่านั้น เกมโดยกำเนิดของ Switch เองภาพมักจะสดใสการ์ตูนๆ หน่อย ทำให้ดูสวยในสไตล์ของมันเองและไม่กินเครื่องมาก (คือกินเท่าที่มีนั่นแหละ หลายเกมเล่นได้ลื่นแต่เครื่องร้อนจี๋)

สรุปคือ จะบอกว่า เกมมือถือมันไม่ใช่เกมที่แท้จริง มันคือเกมที่ออกแบบมาให้ผู้เล่นติดกับและเติมเงิน (แต่ก็ได้ความสนุกเหมือนกัน) แต่เกมบนเครื่องพกพา มันคือเกมที่ออกแบบมาให้สนุกกับเกมเพลย์และเนื้อเรื่อง รวมถึงเล่นได้หลายคนในหน้าจอเดียว เป็นสเน่ห์ที่มือถือให้ไม่ได้ ที่สำคัญคือซื้อครั้งเดียวจบ มีคุณค่าในการเล่นซ้ำ และเล่นได้ตลอดไปถ้าเครื่องไม่พังและคุณยังมีชีวิต และคนที่ชอบอย่างหลังยังมีอยู่มาก มากๆ เลย แต่ก็นั่นแหละ มักเป็นกลุ่มคนที่มีเงินพอจะซื้อเครื่องเพิ่ม หรือพ่อแม่ซื้อให้ลูก ลำพังเด็กๆ ที่พ่อแม่ให้แค่มือถือเฉยๆ มันก็เล่นแต่เกมมือถือนั่นแหละ

แม้ว่าจะโดนกินส่วนแบ่งตลาดไป และอนาคตอาจมีแนวโน้มสูงขึ้น แต่เชื่อได้ว่า เครื่องเกมพกพา "ที่ออกแบบมาดีแล้ว" จะไม่ตายแน่นอน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่